เคล็ดลับเลือกอาหารบำรุงสมอง เสริมความจำ ป้องกันสมองล้า
"สมอง" เป็นศูนย์ควบคุมสำคัญของทุกระบบในร่างกาย ตั้งแต่การคิด วิเคราะห์ ความจำ ไปจนถึงการเคลื่อนไหว หากสมองเริ่มอ่อนล้า จะส่งผลให้ความสามารถในการทำงานลดลงตามไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนในวัยทำงาน นักเรียน หรือแม้แต่คนวัยรุ่นที่ใช้สมองหนัก พักผ่อนน้อย ก็มักมีอาการหลงลืม สมาธิสั้น และความจำถดถอยได้ด้วยเช่นกัน
การดูแลสมองจึงไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม และจำเป็นต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ ด้วยการเลือกกินอาหารบำรุงสมองเสริมความจำอย่างตรงจุด รวมถึงเพิ่มศักยภาพการใช้ชีวิตให้เต็มที่ในทุกช่วงวัย
สมองล้า หลง ๆ ลืม ๆ ควรกินอะไรดี ?
หากคุณเริ่มรู้สึกว่าความจำไม่ค่อยดี หลงลืมบ่อย สมองไม่แล่นเวลาทำงานหรือคิดโครงการใหม่ ๆ ทำให้รู้สึกกังวลใจ จนคิดไม่ตกว่าควรกินอะไรบำรุงสมอง เพื่อเสริมสร้างการทำงานของสมองและประสิทธิภาพด้านความจำดี เรามีอาหารบำรุงสมองมาแนะนำกัน ดังนี้
ปลาทะเลน้ำลึก
ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน และปลาแมกเคอเรล เป็นแหล่งของกรดไขมันจำเป็น โอเมกา 3 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดีเอชเอ ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของเซลล์สมอง ช่วยในเรื่องความจำ การเรียนรู้ และยังช่วยลดการอักเสบในสมองได้อีกด้วย
ถั่วและธัญพืชต่าง ๆ
อัลมอนด์ วอลนัต และเมล็ดฟักทอง อุดมไปด้วยวิตามินอี สารต้านอนุมูลอิสระ และกรดไขมันดี ที่ช่วยปกป้องเซลล์สมองจากการถูกทำลายและลดการอักเสบ
ผักใบเขียว
ผักโขม คะน้า บรอกโคลี และกะหล่ำปลี มีวิตามินเค ลูทีน และโฟเลตสูง ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ล้วนมีบทบาทสำคัญในการช่วยชะลอความเสื่อมของสมอง ป้องกันสมองอ่อนล้าได้เป็นอย่างดี
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี
บลูเบอร์รี สตรอว์เบอร์รี และแบล็กเบอร์รี อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า แอนโทไซยานิน ช่วยป้องกันเซลล์สมองจากการถูกทำลาย และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารระหว่างเซลล์ประสาท
ไข่
ไข่ไก่ เป็นแหล่งอาหารที่หาได้ง่ายและมีประโยชน์ต่อสมองอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในส่วนของไข่แดงที่มีโคลีน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการสร้างสารสื่อประสาทสำคัญ อย่างอะซีทิลโคลีน ที่มีบทบาทโดยตรงต่อกระบวนการเรียนรู้และความจำ
วิตามินอะไรบำรุงสมอง ช่วยเสริมความจำและการทำงานของสมอง ?
สำหรับวิตามินบำรุงสมอง ช่วยเสริมความจำ ทั้งคนวัยเรียน และวัยทำงาน มีอยู่หลากหลายชนิด ซึ่งล้วนหาได้จากแหล่งอาหารที่มีประโยชน์ต่าง ๆ แต่ถ้ากังวลว่าวิตามินที่ได้รับจากมื้ออาหารในแต่ละวันอาจไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในช่วงที่รู้สึกสมองล้า ก็สามารถรับประทานวิตามินที่มาในรูปแบบอาหารเสริม เพื่อเพิ่มวิตามินในการบำรุงสมองให้แก่ร่างกายด้วยเช่นกัน โดยที่ควรรับประทาน มีดังนี้
วิตามินบีรวม (B1, B6, B12)
วิตามินในกลุ่มนี้พบได้ในอาหาร เช่น เนื้อสัตว์ ตับ ไข่ นม ถั่วเมล็ดแห้ง และธัญพืชเต็มเมล็ด โดยเฉพาะวิตามินบี 12 มีความสำคัญต่อการทำงานของระบบประสาท ช่วยในการสร้างและนำส่งสัญญาณประสาท หากรับประทานในรูปแบบวิตามินสามารถรับประทานหลังอาหารทันที เพื่อประสิทธิภาพการดูดซึมที่ดีที่สุด โดยหลีกเลี่ยงการรับประทานขณะท้องว่าง หรือพร้อมเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เพราะอาจลดประสิทธิภาพการดูดซึมวิตามินบีรวมได้
วิตามินดี
นอกจากจะช่วยบำรุงกระดูกแล้ว วิตามินดี 3 ยังมีบทบาทในการส่งเสริมการทำงานของสมอง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคสมองเสื่อมและภาวะซึมเศร้า ซึ่งการเสริมสร้างวิตามินดีให้แก่ร่างกาย สามารถทำได้ด้วยการออกไปรับแสงแดดในช่วงเช้า 6.00-9.00 น. เป็นเวลาประมาณ 15 นาที หรือจากการรับประทานปลาที่มีไขมันดี เช่น แซลมอน ทูน่า หรือไข่แดง และสามารถรับประทานในรูปแบบวิตามิน โดยรับประทานหลังมื้ออาหารที่มีไขมัน เพื่อให้ดูดซึมได้ดีขึ้น
วิตามินอี
วิตามินอี มีสรรพคุณเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง ช่วยปกป้องเซลล์สมองจากการเสื่อมสภาพ และช่วยชะลอความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถหาได้จากการรับประทานอาหารประเภทถั่วและเมล็ดพืช เช่น เมล็ดทานตะวัน อัลมอนด์ และน้ำมันพืช เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันดอกทานตะวัน หากต้องการรับประทานในรูปแบบวิตามินสามารถรับประทานหลังมื้ออาหารที่มีไขมัน จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดียิ่งขึ้น
โคลีน
สารอาหารสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างการเรียนรู้และความจำ และช่วยให้การสื่อสารระหว่างเซลล์สมองมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยโคลีน ได้แก่ ไข่แดง เนื้อสัตว์ ปลา และถั่วเหลือง หรือหากต้องการรับประทานในรูปแบบวิตามิน ควรรับประทานพร้อมมื้ออาหารในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดีขึ้น
โอเมกา 3 และดีเอชเอ
นับเป็นอีกหนึ่งกลุ่มสารอาหารที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาและการทำงานของสมองในทุกช่วงวัย ช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้เยื่อหุ้มเซลล์สมอง ทำให้การสื่อสารระหว่างเซลล์เป็นไปอย่างราบรื่น หากต้องการเสริมโอเมกา 3 และดีเอชเอ แนะนำให้รับประทานปลาทะเลน้ำลึก เช่น แซลมอน แมคเคอเรล รวมถึงวอลนัต และเมล็ดแฟล็กซ์ หรือรับประทานในรูปแบบวิตามินพร้อมมื้ออาหาร หรือหลังมื้ออาหาร โดยควรรับประทานอย่างสม่ำเสมอในช่วงเวลาเดิมทุกวัน เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุด
เลซิทิน
สารอาหารชนิดนี้มีส่วนประกอบสำคัญคือ ฟอสฟาติดิลโคลีน ซึ่งเป็นสารสำคัญในการสร้างสารสื่อประสาทและเซลล์ประสาท ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของความจำ โดยเฉพาะความจำระยะสั้น และช่วยในกระบวนการเรียนรู้ มักพบมากในอาหารอย่างเช่น ถั่วเหลือง ไข่แดง และตับ อย่างไรก็ตามหากจะรับประทานในรูปแบบวิตามินเสริม ควรรับประทานพร้อมมื้อหรือหลังมื้ออาหาร เพื่อเสริมสร้างการบำรุงสมอง การเรียนรู้ และความจำ
อาหารทำร้ายระบบสมอง
ในทางกลับกันก็มีอาหารหลายชนิดที่ควรหลีกเลี่ยง หรือลดปริมาณการกินลง เนื่องจากเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดภาวะสมองเสื่อมโดยไม่รู้ตัว
• ของหวานจัด ที่มีปริมาณน้ำตาลมากเกินไป อาจทำให้เกิดภาวะดื้ออินซูลินในสมอง ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของเซลล์ประสาทและเพิ่มความเสี่ยงต่อการอักเสบ
• ไขมันทรานส์ ที่พบในอาหารแปรรูปและอาหารทอดบางชนิด ไม่เพียงแต่ทำลายหลอดเลือด แต่ยังส่งผลเสียต่อสมองโดยตรง
• อาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก เบคอน มีโซเดียมและสารกันเสียสูง ซึ่งส่งผลเสียต่อการทำงานของสมองในระยะยาว
• เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากดื่มในปริมาณมากเกินไป เสี่ยงทำลายเซลล์สมอง และลดประสิทธิภาพในการจดจำ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะสมองเสื่อม
วิธีการดูแลตนเอง ป้องกันความจำเสื่อม ควบคู่การกินอาหารบำรุงสมอง
นอกจากการกินอาหารบำรุงสมองแล้ว ยังควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตร่วมด้วย เพื่อช่วยดูแลสุขภาพของสมองอย่างยั่งยืน
นอนหลับให้เพียงพอ
สมองต้องการเวลาพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูและกำจัดของเสียที่สะสมระหว่างวัน หากนอนหลับไม่เพียงพอ จะส่งผลให้สมองทำงานได้ไม่เต็มที่และส่งผลต่อความจำโดยตรง
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง ทำให้สมองได้รับออกซิเจนและสารอาหารมากขึ้น และยังช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์สมองใหม่
ฝึกสมองทุกวัน
ลองหากิจกรรมที่ท้าทายสมอง เช่น เล่นเกมฝึกความจำ เรียนรู้ภาษาใหม่ หรืออ่านหนังสือและบทความที่น่าสนใจ เพื่อกระตุ้นการทำงานของเซลล์ประสาทให้มีประสิทธิภาพ
หลีกเลี่ยงความเครียด
ความเครียดเรื้อรังส่งผลให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งทำลายเซลล์สมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับความจำ ดังนั้นการจัดการความเครียดจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ตรวจสุขภาพสมองสม่ำเสมอ
การตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี จะช่วยให้รู้เท่าทันความเสี่ยงของการเกิดโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง หรือโรคหัวใจ เพราะโรคเหล่านี้อาจก่อให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับสมอง อีกทั้งการควบคุมโรคเรื้อรังให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาสมองได้ด้วยเช่นกัน
สำหรับผู้ที่ทำงานหนัก ใช้สมองอย่างต่อเนื่อง หรือผู้ที่เริ่มมีปัญหาเรื่องความจำ การเลือกกินอาหารบำรุงสมองที่เหมาะสม และเสริมด้วยวิตามินที่มีประโยชน์ จะช่วยป้องกันการเสื่อมของสมอง และเสริมประสิทธิภาพความจำให้ดีขึ้นในระยะยาว
อย่ารอให้หลงลืม สมองอ่อนล้า แล้วค่อยดูแล เริ่มต้นบำรุงสมองวันนี้เพื่อสุขภาพสมองที่ดีตลอดไป
ข้อมูลอ้างอิง
1. Foods linked to better brainpower. สืบค้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 จาก https://www.health.harvard.edu/healthbeat/foods-linked-to-better-brainpower
2. What should we eat for a healthy brain?. สืบค้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 จาก https://www.alzheimersresearchuk.org/news/what-should-we-eat-for-a-healthy-brain/
3. 9 Foods That May Help Save Your Memory. สืบค้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 จาก https://www.health.com/condition/alzheimers/9-foods-that-may-help-save-your-memory
4. 2 กลุ่มวิตามิน + แร่ธาตุ ตัวไหนจำเป็น กินตอนไหนให้ร่างกายแข็งแรง. สืบค้นวันที่ 29 กันยายน 2568 จาก https://www.vibhavadi.com/th/blogs/2-groups-of-vitamins-minerals-which-one-is-necessary-and-when-should-we-consume-them-for-a-strong-body
5. เลซิติน 7 ประโยชน์ และข้อควรรู้ในการรับประทาน. สืบค้นวันที่ 29 กันยายน 2568 จาก https://www.pobpad.com/เลซิติน-7-ประโยชน์-และข้อ